บทความจาก Asia HR Conference 2024 – การปลดล็อกศักยภาพของพนักงานในยุค AI: ข้อมูลเชิงลึกที่สําคัญสําหรับผู้นําธุรกิจและฝ่ายทรัพยากรบุคคล 

เรายืนอยู่ที่ศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงแรงงานและธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อความสามารถของ AI และศักยภาพพนักงานกำลังมาบรรจบกัน องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญกับโอกาสและความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อนในการสร้าง Workforce 2.0

จากการวิจัยล่าสุดจากแนวโน้มตลาดแรงงานที่มีทักษะศักยภาพสูงทั่วโลก และการสังเกตการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง ข้อมูลเชิงลึกที่สําคัญนี้เป็นสิ่งที่ผู้นําทางธุรกิจและฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องพิจารณาเพื่อนําทางการเปลี่ยนแปลงนี้

การระบาดใหญ่ได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการทํางานโดยพื้นฐาน วันนี้ พนักงาน 42% รายงานว่าความต้องการของพวกเขายังไม่ได้รับการตอบสนอง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 19% เมื่อสองปีก่อน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

พนักงานไม่ต้องการเป็นแค่พนักงานอีกต่อไป พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในวาระการประชุมที่กว้างขึ้น พวกเขาแสวงหาองค์กรที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีโอกาสในการเติบโต และพวกเขาไม่เพียงต้องการเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร แต่พวกเขาต้องการช่วยกําหนดวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงค่านิยมของพวกเขา

ปัจจัยสําคัญที่ผลักดันการรักษาพนักงานในเอเชียคือ ความมั่นคงในหน้าที่การงาน ค่าจ้างที่เป็นธรรม และวัฒนธรรมการทํางาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พนักงานทุกรุ่นทั่วโลกมีลําดับความสําคัญเดียวกัน นั่นคือ การทํางานในองค์กรที่มีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ รู้สึกมีส่วนร่วม มีคุณค่าสําหรับผลงานของพวกเขา สนุกสนานในที่ทํางาน และมีผู้จัดการที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจพวกเขา

แม้ว่าประสิทธิภาพการทำงานของ AI จะมีนัยสําคัญ โดยผู้บริหารคาดหวังว่าจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น 10-50% แต่องค์กรต้องคิดให้ไกลกว่าแค่ประสิทธิภาพ ยังมี AI อีกมากที่สามารถปรับแต่งและการคาดการณ์เพื่อพัฒนางานและผลลัพธ์ทางธุรกิจของเรา งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า พนักงานทั่วไปในเอเชียใช้เวลามากกว่าหนึ่งในสามของพวกเขาไปกับงานทั่วไปและงานที่ทําซ้ำๆ โดยมีเพียง 26% ทุ่มเทให้กับการแสวงหาความคิดสร้างสรรค์ AI สามารถช่วยเปลี่ยนความสมดุลนี้และช่วยให้งานสร้างแรงบันดาลใจได้มากขึ้น แต่เป้าหมายไม่ควรเป็นเพียงการคืนผลกําไรจากประสิทธิภาพการทำงานของ AI ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

แต่องค์กรควรพิจารณาผลลัพธ์จากการที่ AI ได้"เอื้อประโยชน์"ให้กับพนักงานโดย

• ให้พนักงานมีเวลาเพิ่มขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
• การลงทุนเพื่อผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
• สนับสนุนการพัฒนาทักษะและฝึกฝนทักษะใหม่อย่างต่อเนื่อง

World Economic Forum ประมาณการว่าทักษะในปัจจุบันน้อยกว่า 40% จะยังคงมีความเกี่ยวข้องที่สำคัญในสองปี องค์กรชั้นนําจะตอบสนองโดยการสร้างองค์กรที่ให้ความสำคัญกับทักษะ การวิจัยของเราแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้แก่

• การสร้างกระบวนการพัฒนาทักษะทั่วทั้งองค์กร
• การทําแผนการเรียนรู้สำหรับทุกตำแหน่งงาน
• การดําเนินการเพื่อกระตุ้นการพัฒนาทักษะตามความตั้งใจของพนักงาน
• ให้รางวัลและสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะ

บริษัทอย่าง Standard Chartered ได้แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานแทนที่การจ้างคนใหม่ สามารถประหยัดเงินได้ถึง $50,000 ต่อคน ทําให้เรื่องนี้มีความสําคัญสูงสุดในระดับคณะกรรมการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ในการปลดล็อกศักยภาพของพนักงานในโลกที่เครื่องจักรเข้ามามีบทบาทองค์กรต้องให้ความสําคัญกับ

1. การขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงานโดยมุ่งเน้นให้พนักงานเป็นศูนย์กลาง วัดความเป็นไปได้ในการทํางานในอนาคตกับความคาดหวังของพนักงาน โดยใช้ทักษะเป็นสะพานเชื่อม
2. การสร้างความไว้วางใจและความเสมอภาค สร้างความมั่นใจถึงความเป็นธรรมในการใช้ AI และรักษาแนวปฏิบัติด้านจริยธรรมที่สําคัญต่อทั้งแรงงานและลูกค้า
3. การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันขององค์กร มองภาพให้กว้างขึ้นด้านความเสี่ยงขององค์กร รวมถึงระดับการทำงานของพนักงานและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะที่ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ด้านสุขภาพ ความมั่งคั่ง และสายอาชีพที่ดีขึ้น
4. การสร้างวัฒนธรรมดิจิทัลขั้นแรก: กระตุ้นให้เกิดการนําเทคโนโลยีและวิธีการทํางานใหม่ ๆ มาใช้อย่างกว้างขวางเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

ในฐานะผู้นําฝ่ายทรัพยากรบุคคล เราไม่เพียงแค่สามารถปรับตัวเข้ากับอนาคตได้เท่านั้น เราต้องกําหนดแนวทางอย่างจริงจัง ซึ่งหมายถึงการดูแลไม่ใช่แค่งาน แต่หมายถึงบุคลากรในองค์กร เราต้องให้ความสําคัญกับ AI และผลลัพธ์ด้าน ESG เข้ากับตัวชี้วัดของเรา นายจ้างยังต้องพัฒนาความก้าวหน้าในการทํางานและความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่กันไป โปรแกรมสุขภาพในที่ทํางานหากไม่มีการออกแบบงานที่สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานก็เท่ากับไม่สามารถตอบโจทย์พนักงานได้

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการนำความสามารถทางเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับการทำงานของพนักงาน เมื่อองค์กรมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบเหล่านี้ในขณะที่ยังคงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของพนักงาน องค์กรสามารถสร้างกลยุทธ์ดิจิทัลที่พนักงานสามารถทำงานร่วมกับเครื่องจักรให้เติบโตไปด้วยกัน

ในยุคใหม่ของการทํางานเป็นทีมระหว่างพนักงานและเครื่องจักร โอกาสนี้ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการจินตนาการถึงอนาคตของการทำงานที่ยังคงเป็นที่จับตามอง ผู้ที่สามารถสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นได้จะสามารถประสบความสำเร็จใน People Age